ดูแลสุขภาพผิววัย 50+

          50+ พอเข้าสู่วัยนี้ ปัญหาผิวก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยยิ่งลึก ผิวหนังเริ่มบางลง ความชุ่มชื้นในผิวลดลง หรือรูปหน้าเริ่มเปลี่ยน

          โดยการเสื่อมสภาพของผิวมักจะเริ่มแสดงสัญญาณให้เห็นได้ตั้งแต่อายุ 25 ปี เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมน โครงสร้างผิว หรือแม้แต่โครงสร้างกระดูก จนทำให้เกิดการสูญเสียความหนาแน่นของเซลล์ผิว ความชุ่มชื้น ควบคู่กับการยุบตัว การหย่อนคล้อยของผิว

 

ปัญหาผิวแต่ละช่วงวัย

ช่วงอายุ 30+ ปัญหาผิวจะเกิดในบริเวณชั้นหนังแท้ โดยเกิดการเสื่อมสลายโครงสร้างสำคัญซึ่งก็คือ คอลลาเจนและอิลาสติน ที่ทำหน้าที่ช่วยให้ผิวหนังมีความเรียบตึง กระชับ และยืดหยุ่น โดยมีการสร้างใหม่น้อยลง จนมีผลให้ผิวเริ่มมีริ้วรอย ผิวหน้าดูไม่สดใสเหมือนช่วงวัยรุ่น

ช่วงอายุ 40+  ชั้นผิวเริ่มอ่อนแอ ปัญหาผิวได้ลงลึกไปถึงชั้นไขมันหรือชั้นใต้ผิวหนัง หรือที่เราเรียกว่า Baby Fat โดยมีการเสื่อมสลายที่มากขึ้น ความหนาแน่นของเซลล์ผิวไม่เหมือนในวัยเด็ก ทำให้ผิวเกิดการยุบตัว นอกจากนี้เนื้อเยื่อพังผืดที่อยู่ระหว่างชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ ซึ่งทำหน้าที่โอบอุ้มผิวให้มีความกระชับได้รูป เริ่มเสื่อมสภาพและอ่อนแรง ทำให้การพยุงผิวแย่ลง รูปหน้าจึงเริ่มหย่อนคล้อย

ช่วงอายุ 50+  ปัญหาผิวได้ลงลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ริ้วรอยยิ่งลึก ผิวหนังเริ่มบางลง ความชุ่มชื้นในผิวลดน้อยลง รูปหน้าเริ่มเปลี่ยน เนื่องจากโครงสร้างกระดูกเกิดการยุบตัวลงตามธรรมชาติ รวมถึงปริมาณฮอร์โมนที่ลดน้อยลง ทำให้บางคนเกิดมีรูปหน้าไม่สมส่วน บางส่วนดูตอบ หรือดูบุ๋มลงไปได้ รวมถึงผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น

ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผิว

1. การลำเลียงสารอาหาร : อายุมากขึ้น ประสิทธิภาพในการลำเลียงสารอาหาร ความชุ่มชื้น และออกซิเจนสู่ผิวชั้นบนจะลดลงตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหนังที่มีอายุมักขาดความยืดหยุ่นและมีริ้วรอย

2. โครงสร้างผิว : อายุที่มากขึ้นทำให้ร่างกายเราสามารถผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน (ซึ่งเป็นโครงสร้างผิวที่สำคัญ) ได้น้อยลง ทำให้ผิวมีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้น

3. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน : เมื่ออายุมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่ไม่สมดุลคงที่เหมือนก่อน ทำให้ร่างกายผลิตเซลล์ผิวที่เติมเต็มความชุ่มชื้นได้ปริมาณน้อยลง ส่งผลให้ผิวไม่สดใส ขาดความชุ่มชื้น หย่อนคล้อย

4. แสงแดด : รังสียูวีในแสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการทำร้ายเซลล์โดยอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้าแดด กระ สีผิวแลดูไม่สม่ำเสมอ หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส

5. สารเคมี : บุหรี่ สารนิโคตินและสารเคมีอื่นๆ ในบุหรี่มีส่วนทำให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมคุณภาพลง นำไปสู่การเกิดริ้วรอย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าดูแก่ก่อนวัย

 

 

การดูแลผิว ของแต่ละช่วงวัย

 

อายุ 30+ ช่วงอายุนี้ แม้เป็นช่วงที่ผิวพรรณจะดูเต่งตึงและเปล่งปลั่ง แต่ก็ไม่ควรละเลย ควรเริ่มดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) ที่มีส่วนช่วยในการชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

อายุ 40+ ริ้วรอยแห่งวัยเกิดขึ้นแบบเห็นได้ชัดมากขึ้นในช่วงวัยนี้ เนื่องจากเป็นวัยเริ่มหมดประจำเดือนหรือวัยทอง ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยตีนกา บริเวณหน้าผากหรือร่องแก้ม หากมีการดูแลไม่ดีอาจก่อให้เกิดผิวแก่ก่อนวัย การดูแลผิวในวัยนี้จำเป็นจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) ที่มีส่วนช่วยป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดใหม่ และฟื้นฟูริ้วรอยเดิมที่มีอยู่ คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์จะต้องมีสารสกัดที่เน้นเรื่องของการต่อต้านริ้วรอย (Anti-Aging) โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ที่มีสารสกัดจากรกแกะ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์ต่อการบำรุง ดูแล และฟื้นฟูผิวพรรณในเรื่องของริ้วรอยโดยเฉพาะ

อายุ 50+ ปัญหาผิวจะเริ่มเด่นชัดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเกิดริ้วรอยร่องลึก จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนช่วยเรื่องริ้วรอยลึกและความหย่อนคล้อยโดยเฉพาะ ที่มีความเข้มข้นและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นผลิตภัณฑ์รกแกะเข้มข้น  สูตรเฉพาะของผิววัย 50+ ที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง ยกกระชับริ้วรอยเก่าๆ ให้แลดูตื้นขึ้น และป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่

 

วิธีการดูแลผิวสำหรับอายุ 50+ มีด้วยกันหลากหลายวิธี

1. การทำทรีทเม้นท์หน้า / Ulthera (อัลเทอร่า) / Thermage

การทำทรีทเม้นท์หน้า เป็นวิธีการดูแลผิวหน้าที่ถูกคิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ในการจัดการกับสัญญาณแห่งวัย โดยมีจุดเด่นคือ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน เช่น AHA treatment และการฉีดสารเติมเต็ม (Filler) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่มีข้อควรระวังหลายประการ ทั้งเรื่องอาจทำให้ผิวแห้ง ไวต่อแสง มีระยะเวลาที่อยู่ได้ไม่นาน และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย

Ulthera (อัลเทอร่า) เป็นการใช้เทคโนโลยีส่งผ่านคลื่นเสียง (หรือคลื่นอัลตราซาวด์) พลังงานสูง ลงลึกไปที่ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System คือชั้นของเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังและไขมัน) ทำให้เกิดการหดตัว และยกกระชับใบหน้าขึ้น ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในระดับสากล ผลของการยกกระชับอยู่ได้อย่างน้อย 1 ปี ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเดียวกัน แต่เจ็บน้อยกว่า คือ UltraLift (High Intensity Focus Ultrasound) แต่ผลการรักษาก็จะน้อยกว่าและสั้นกว่าตามไปด้วย

Thermage คลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียวหรือ Monopolar เป็นอีกเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับใบหน้าเช่นเดียวกับ Ulthera แต่พลังงานจะลงไปที่ชั้นตื้นกว่า คือชั้นไขมันด้านล่างที่เหนือชั้น SMAS จึงทำให้ไขมันบางส่วนสลายไปด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับและต้องการลดไขมันที่ใบหน้า หน้าจึงดูเรียว V-Shape แต่สำหรับคนที่หน้าตอบ แก้มตอบ การใช้ Thermage อาจจะไม่เหมาะสม


2. การทานอาหารที่มีประโยชน์ วิตามิน หรือ อาหารเสริม 

ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ในกลุ่มผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย แต่ไม่ควรทานในรสที่หวานจัด เพราะจะทำให้เกิดสิวได้ง่าย และไม่ควรทานรสเค็มจัดเพราะจะทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ และควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน

นอกจากนั้น ควรทานวิตามินที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ อาทิเช่น วิตามินซี สารสกัดจากเมล็ดองุ่น หรือน้ำมันดอกอีฟนิ่งพรีมโรส ที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

3. การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ผิวหนังกระชับ สุขภาพดี โดยแนะนำให้ออกกำลังกายชนิดแอโรบิก เช่น วิ่ง การเดินเร็ว เป็นต้น ให้ได้อย่างน้อย 20 นาทีต่อครั้ง แต่ไม่ควรเกิน 40 นาที เพราะถ้าเกินกว่านั้น สารอนุมูลอิสระจะออกมาทำลายเซลล์ทำให้เสื่อมสลายเร็วขึ้น หรืออาจใช้วิธีการเล่นโยคะร่วมด้วย

4. การผ่อนคลายอารมณ์และจิตใจด้วยการทำกิจกรรมยามว่าง ทำจิตใจให้แจ่มใส เช่น การปลูกต้นไม้ พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือการนั่งสมาธิเพื่อให้จิตใจผ่องใส

5. ควรหาเวลาไปรับอากาศบริสุทธิ์บ้าง เช่น พักผ่อนต่างจังหวัด หรือ ไปนั่งสูดอากาศใต้ต้นไม้ในเวลาเช้าเพื่อรับออกซิเจน โดยสูดหายใจเข้าให้ลึกๆ และหายใจออกทางปากยาวๆ เพื่อเอาอากาศที่ไม่ดีออกมา

6. เอนกาย ควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เวลาที่แนะนำคือ ควรนอนตั้งแต่ก่อน 5 ทุ่ม ตื่นประมาณ 6 โมงเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะช่วงเวลา 5 ทุ่ม ถึง ตี 4 เป็นช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่

7. การขับถ่ายให้ถูกสุขลักษณะเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรขับถ่ายให้เป็นประจำทุกวัน

8. การใช้ฮอร์โมนทดแทนซึ่งควรอยู่ภายใต้ความเห็นและคำแนะนำของแพทย์

9. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ผิวคุณกลับมาดูเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และอ่อนเยาว์ได้ดังเดิม โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับคนอายุ 50 ขึ้นไป ด้วยสูตรที่เข้มข้น ประสิทธิภาพสูง เหมาะสมกับการดูแลปัญหาริ้วรอยที่ลึก และควรเลือกให้ครอบคลุมการดูแลผิวอื่นๆ ด้วย เช่น การเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวเพื่อดูแลปัญหาผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ได้แก่ เซรั่มรกแกะเข้มข้น ครีมรกแกะ หรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งแสง UVA UVB Infrared และแสงสีฟ้า

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากรกแกะ

การเลือกใช้ครีมและเซรั่มรกแกะแท้ อนุภาคระดับ “นาโน” ที่มีอนุภาคเล็กกว่ารูขุมขน 250 เท่า ด้วยกระบวนการ Micro Hydrolysis จากประเทศเกาหลี จะทำให้สารอาหารซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และลึกขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของรกแกะในการป้องกัน และเติมเต็มริ้วรอยให้ดียิ่งขึ้น

จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ ชาวอายุ 50+ สามารถเลือกสรรเพื่อดูแลตัวเองได้ทุกวันในการลดริ้วรอยลึก ยกกระชับผิวแบบเร่งด่วน ด้วย “รกแกะแท้” อนุภาคนาโน ผสานนวัตกรรม Innovative Botox-like Peptide ที่ยกกระชับผิวได้คล้ายการฉีดโบท็อกซ์ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งความภาคภูมิใจที่ผลิตและคิดค้นโดย เภสัชกรชาวไทย เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวของคนไทยโดยเฉพาะ





ผลิตภัณฑ์รกแกะ

  • ครีมรกแกะนาโน สูตรลดเลือนริ้วรอย : Merino Sheep Placenta Anti-Aging Cream 50g ลดเลือนริ้วรอย เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
    399.00 ฿
    450.00 ฿  (-11%)
  • ครีมรกแกะนาโน สูตรไวท์เทนนิ่ง : Merino Sheep Placenta Whitening Cream 50g ลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำ เพื่อผิวขาวกระจ่างใส
    399.00 ฿
    450.00 ฿  (-11%)
  • เซรั่มรกแกะเข้มข้น สูตร เติมเต็มริ้วรอยลึก ยกกระชับผิว : Merino Sheep Placenta Wrinkle Defense Concentrated Serum 30 ml
    599.00 ฿
    750.00 ฿  (-20%)
  • เซรั่มรกแกะเข้มข้น สูตร แก้ปัญหาฝ้า กระ : Merino Anti-Melasma Super Whitening Serum 30 ml
    599.00 ฿
    750.00 ฿  (-20%)